รวบเซียนอาร์ม อ้อมน้อยหลอกขายหลวงพ่อโสธร 80 ปี กรมตำรวจ มีหมายจับติดตัวเพียบ        จากนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รรท.ผบ.ตร. ,พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมทางออนไลน์ ที่กระทำความผิดทุกรูปแบบ ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้เร่งทำการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา ตามหมายจับเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการฉ้อโกงหลอกลวงประชาชนในสื่อสังคมออนไลน์  โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น พบคนร้ายหลอกขายพระหลวงพ่อโสธรรุ่น 80 ปีกรมตำรวจที่เป็นที่ต้องการของบรรดาประชาชนที่สะสม สร้างความเดือดร้อนไปทั่ว             วันที่ 16 เม.ย.67 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.  สั่งการพล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.,พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.อดุลย์ ดอกพวง ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.รัฐนันท์ สมวงศ์, พ.ต.ท.ปกรณ์ ทองช่วง  รอง ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น.พ.ต.ต.นิทัสน์ มีทอง สว.กก.สส.4ฯ, ด.ต.ชาญฤทธิ์ นิลทการ, ด.ต.ธีรพันธ์ โพยนอก, จ.ส.ต.สรายุทธ ยศสกุล, จ.ส.ต.กานต์ สรรพกิจจำนง ผบ.หมู่ กก.สส.4ฯ ได้ร่วมกันจับกุมตัว​           นายอโนชา อายุ 36 ปี ภูมิลำเนา ต.ดอนศรีชุม อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยาผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรีที่ 1239/2566 ลงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2566             ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน  “ ฉ้อโกง และ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง ”        จากการตรวจสอบในระบบ CRIMES พบอีก 2 หมาย  ดังนี้1.หมายจับศาลจังหวัดหัวหินที่ 109/2560 ลง 15 พฤษภาคม 2560 สภ.ปราณบุรี ภ.จว.ประจวบคีรีชันธ์ในความผิดฐาน " ฉ้อโกง "2.หมายจับศาลแขวงขอนแก่นที่ 131/2561 ลง 22 มิถุนายน 2561 สภ.เมืองขอนแก่น ภ.จว.ขอนแก่นในความผิดฐาน "นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และฉ้อโกง "รวม 3  หมาย         สถานที่จับกุม : ริมถนนหน้าเงินติดล้อ ประกันติดโล่ สาขา คลองแค(อ้อมน้อย)  ตำบลอ้อมน้อย อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร         พฤติการณ์แห่งคดี : คนร้ายใช้บัญชีเฟสบุ๊คชื่อ "ณัฏนิช ศรีสวัสดิ์" ติดต่อผู้เสียหายมาทางแชทเมสเซนเจอร์เฟสบุ๊ค เนื่องจากเห็นโพสต์เกี่ยวกับพระเครื่องของผู้เสียหายในกลุ่มเฟสบุ๊ค ต่อมาได้เสนอขายพระเครื่องให้แก่ผู้เสียหายและผู้เสียหายตกลงซื้อพระเครื่อง โดยโอนเงินเข้าบัญชีของผู้ต้องหาเป็นเงินจำนวน 30,000 บาท เป็นค่ามัดจำพระหลวงพ่อโสธร 80 ปี กรมตำรวจ ต่อมาไม่สามารถติดต่อได้จึงเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว จากการตรวจสอบข้อมูล ในระบบพบว่ามีหมายจับในคดีลักษณะเดียวกันอีกหลายพื้นที่ ประกอบด้วย สภ.ปราณบุรีภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ และ สภ.เมืองขอนแก่น ภ.จว.ขอนแก่น  ทั้งนี้เมื่อปี 2561 เคยถูกจับกุมเกี่ยวกับกรณีโพสต์ข้อความแอบอ้างว่าเป็นศูนย์รวมเครื่องมือช่างจัดจำหน่ายเครื่องมือช่างต่างๆ ในราคาถูกกว่าท้องตลาด จนทำให้มีผู้หลงเชื่อโอนเงินสั่งซื้ออุปกรณ์เครื่องมือช่างชนิดต่าง ได้รับความเสียหายหลายราย       ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้กา รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา       นำตัวส่ง สน.คันนายาว  เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป       พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ขอฝากเตือนว่า ผู้ใดนิยมการซื้อขาย…

สืบสวนนครบาล 6 รวบพ่อค้า ยาเสพติด ย่านสายไหม พร้อมของกลางยาบ้า 40,000 เม็ดวันที่ 17 เม.ย.67 พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผบก.น.6 พร้อมด้วย พ.ต.อ.นริศ ปราถนาพร รอง ผบก.น.6, พ.ต.อ.ทศพล อำไพพิพัฒน์กุล ผกก.สำราญราษฎร์ สั่งการให้ พ.ต.ท.ภาณุพงศ์ จินดาหลวง รอง ผกก.สส.สน.สำราญราษฎร์, พ.ต.ต.สุวิทย์ หล่มศักดิ์ สว.สส. และกำลังชุดสืบสวน สน.สำราญราษฎร์ ร่วมกันจับกุมนายธีระพงศ์ หรือ ธี โฉมทอง อายุ 32 ปีพร้อมของกลางยาบ้า 40,000 เม็ด โดยจับกุมบริเวณที่รกร้างกลางซอยสุขาภิบาล 5 ซอย 32 แขวงออเงิน เขตสายไหม กทม. สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนทราบว่านายธี  มีพฤติการณ์จำหน่ายยาบ้าให้กับผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่ย่านสายไหม และมีการนัดหมายส่งยาบ้าบริเวณที่รกร้างกลางซอยสุขาภิบาล 5  จึงไปตรวจสอบพร้อมกระจายกำลังชุดสืบสวนซุ่มดูอยู่บริเวณใกล้เคียง จนกระทั่งพบนายธี เดินถือกล่องโฟม เดินเข้ามาลักษณะท่าทางพิรุธ ต้องสงสัยมีสิ่งกฏหมาย เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเพื่อขอตรวจสอบพบยาบ้า จำนวน 40,000 เม็ดซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องโฟม จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน สอบถามนายธี ให้การว่า ยาบ้าดังกล่าวได้รับมาจากนายซี คลองสอง จำนวน 42 มัด ราคามัดละ 11,000 บาท เพื่อนำมาขายให้กับลูกค้าในราคามัดละ 12,000 บาทได้กำไรจากการขาย  จากนั้นได้ถือกล่องโฟมที่บรรจุยาบ้า เดินมาที่จุดเกิดเหตุเพื่อนำส่งให้กับลูกค้าที่นัดหมายกันไว้ ก่อนจะถูกตำรวจเข้าตรวจค้นจับกุมในครั้งนี้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

พระพยอมเตือนพระพี่เลี้ยงควรตักเตือนเณรเล่นน้ำสงกรานต์ให้ลดความคึกคะนอง จากกรณีผู้ใช้ติ๊กต๊อกรายหนึ่งโพสต์คลิปขณะเณรกลุ่มใหญ่ เล่นสงกรานต์สาดน้ำกับญาติโยมที่ผ่านไปมาบริเวณริมถนนและสาดน้ำหญิงสาวที่ขับรถจยย.ผ่านไปมาทำให้โลกโซเชียลต่างวิพากวิจารณ์ว่าทำแบบนี้เหมาะสมหรือไม่   เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ถึงกรณีดังกล่าวว่าเหมาะสมหรือไม่   พระพยอมกล่าวว่า เรื่องแบบนี้อยู่ที่พระที่ดูแลเณรต้องขยันบอกให้เณรลดความคึกคะนองหลังจากบวชแล้วควรจะเว้นจากการประพฤติกระทำนึกคิดใฝ่ฝันแบบฆราวาสถ้าปล่อยให้เล่นพระที่เลี้ยงไม่เตือนไม่ดุสัญชาตญาณเด็กก็ไม่รู้ว่าจะหยุดตอนไหนไหลไปเรื่อยตามกระแส ตอนสมัยอาตมาบวชเณรพอเช้าออกบิณฑบาต พอเสียงกลองยาวดัง แทบจะวางบาดรำ เป็นสัญชาตญาณเก่าของเด็ก เพราะฉะนั้นพระพี่เลี้ยง ควรต้องดูต้องสอนให้สงบ เรียบร้อยอย่าปล่อยให้คึกคะนองจะดีที่สุด

พระพยอมติงกรณีใส่ชุดกบนำแป้งปะพระสงฆ์จนขาวทั้งตัวควรมีขอบเขต จากกรณีผู้ใช้ tiktok โพสต์คลิปใส่ชุดกบเข็นรถใส่แป้ง ดินสอพองนำมาปะหน้าและลำตัวพระสงฆ์จนขาวไปทั้งตัวที่นั่งเรียงกันในงานสรงน้ำพระ ระบุข้อความว่า "น้ำพระ....โอ้ย น้อ พระชุบแป้ง พร้อมทอดโดนทุกดอกบอก ศรัทธานะ" สรงน้ำพระยังไงให้โลกจำ   เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดสวนแก้ว ตำบลบางเลน อำเภอบางใหญ่จังหวัดนนทบุรี เพื่อสอบถามกรณีดังกล่าวกับพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้วว่าเหมาะสมหรือไม่   พระพยอมกล่าวว่า ตัวที่เล่นเป็นกบเป็นจระเข้ ไม่รู้ว่าเป็นพระด้วยหรือเปล่า ส่วนพระที่ยอมให้ป้ายแป้งนั่งเป็นหุ่นไม่พูดไม่จาไม่สอนไม่แนะนำว่าจะเล่นกันเลยเถิดไปถึงไหนเป็นพระควรจะสอนควรตักเตือนโยมไม่ใช่ให้ทำตามอำเภอใจไม่ใช่พระอิฐพระปูนอย่าปล่อยให้สังคมไทยเละเทะมากไปกว่านี้เพราะพระไม่สอนไม่เตือนไปยินดีและสมยอมกลายเป็นเลยเถิดเกิน ขอบเขตความเป็นฆราวาสและความเป็นพระญาติโยมที่ดีคงไม่เล่นแบบนี้คงเป็นพวกสนุกคึกคะนองที่ทำกัน

จับต่างชาติชาวฮ่องกงซุกซ่อนยาเคและแฮปปี้วอร์เตอร์จำนวนมาก ก่อนนำเข้าไปปาร์ตี้ในงาน S2Oวันนี้ (16 เม.ย.67) เวลา 11.00 น. พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 เม.ย. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 21.00 น. มีการจัดกิจกรรมเทศกาลสงกรานต์ S2O Songkran Music Festival 2024 ซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 13-15 เม.ย.67 บริเวณลานจัดกิจกรรมไลฟ์ปาร์ค แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร ซึ่ง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. และ พล.ต.ต.ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผบก.น.4 ได้มีนโยบายมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วังทองหลาง เจ้าหน้าที่สุนัขตำรวจ(K-9) บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน พร้อมเข้มงวดตรวจสอบเรื่องยาเสพติด คัดกรองบุคคลและสิ่งของ ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี และอาวุธปืน หรือวัสดุของแข็งที่อาจจะใช้เป็นอาวุธได้ เข้าภายในงานโดยเด็ดขาด ทั้งนี้ได้มีการวางกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 200 นาย เพื่อรักษาความปลอดภัยและป้องกันเหตุตามมาตรการดังกล่าว    ต่อมาเวลาประมาณ 21.30 น. นายณัฐวุฒิ เข็มอนุสุข เจ้าหน้าที่ รปภ. ได้พบเห็นชายชาวต่างชาติมีท่าทีพิรุธต้องสงสัยคล้ายมีสิ่งของผิดกฎหมายซุกซ่อนอยู่ภายในตัว มีพฤติกรรมแจกซองสีแดงและสีดำให้กับบุคคลอื่นที่เข้ามาภายในงาน ทราบชื่อภายหลังคือ นายตู้เหวย TO WAI-KIT (ผู้ต้องหาชาวฮ่องกง) จึงได้รีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมทราบ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแสดงตัวเข้าตรวจค้นพร้อมด้วยล่ามแปลภาษาจีน  ผลการตรวจค้นภายในตัวนายตู้เหวยฯ พบ ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (Happy Water) บรรจุอยู่ในซองสีแดงและดำ เขียน จำนวน 5 ซอง น้ำหนักรวม 67.459 กรัม ซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าสะพายข้างสีชมพูที่ผู้ถูกจับสะพาย และวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 (เคตามีน) บรรจุอยู่ในหลอดพลาสติก น้ำหนัก 1.542 กรัม ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกง   จากนั้น พ.ต.ท.อภิโชค ขนบดี รอง ผกก.สส.สน.วังทองหลาง และพ.ต.ต.เจตน์ดนัย ใจธิ สว.สส.สน.วังทองหลาง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.วังทองหลาง ขยายผลนำผู้ต้องหาชาวฮ่องกง เข้าตรวจค้นห้องพักแห่งหนึ่งย่านรัชดา แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ จากการตรวจค้นพบยาเสพติดเพิ่มเติมอีกหลายรายการ ดังนี้1.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1(แฮปปี้วอเตอร์) บรรจุอยู่ในซองสีดำ เขียนภาษาอังกฤษ SIMMPLE จำนวน 3 ซอง (ซองที่ 1 น้ำหนักรวมซอง 4.089 กรัม,ซองที่ 2 น้ำหนักรวมชอง 4.099 กรัม,ซองที่ 3 น้ำหนักรวมซอง 3.468 กรัม) วางอยู่บริเวณโต๊ะกินข้าวกลางห้องพักดังกล่าว2.วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเกท 2 (เคตามีน) ลักษณะเกร็ดสีขาว จำนวน 1 ถุง น้ำหนักรวมถุง 0.916 กรัม เฉพาะน้ำหนักยาเสพติด 0.495 กรัม วางอยู่บริเวณโต๊ะกินข้าวกลางห้องพักดังกล่าว3.ซองถุงพลาสติกสีฟ้า-สีขาว แบบรูดปิดพร้อมสำหรับจำหน่ายอีกจำนวน 8 ซอง   โดยรวมยาเสพติดของกลางทั้งสิ้น ยาแฮปปี้วอเตอร์กว่า 80  กรัม และเคตามีนกว่า 3 กรัม     จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาให้ผู้ต้องหาทราบว่า "เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย ,มียาเสพติดประเภท 1 (แฮปปี้วอเตอร์) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายและมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต" เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้นำตัวมาสอบสวนขยายผล จัดทำบันทึกการจับกุม นำตัวผู้ถูกจับพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

บิ๊กโจ๊กเป็นประธานเททองหล่อพระประธานอุโบสถในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ท่ามกลางชาวใต้ที่มาต้อนรับอบอุ่นยังคงเดินหน้าสายบุญ  โดยอาศัยวันหยุดสงกรานต์ เดินหน้าทำความดี ร่วมกับมวลชนอย่างต่อเนื่องโดยล่าสุดพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  เดินสายจากภาคอีสาน ลงสู่ภาคใต้ เป็นประธานเททองหล่อพระประธานอุโบสถ ณ วัดป่าเรียน ต.ตลิ่งชัน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช โดยมีประชาชนมาร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก ซึ่งหลังจากเสร็จ พิธีกรรมทางศาสนา บรรดากลุ่มแฟนคลับ ก็ยังคงเดินเข้ามาขอถ่ายรูป และจับไม้จับมือให้กำลังใจไม่ขาดสาย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยอมรับว่า ที่ผ่านมามีเวลาทำกิจกรรมแต่ละจุดน้อยเนื่องจากภารกิจค่อนข้างหนัก แต่ละวันต้องเดินทางหลายพื้นที่และตรวจราชการรวมถึง ติดตามคดีที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้กฎหมายแต่ช่วงนี้มาประจำอยู่ที่สำนักนายกรัฐมนตรี  และได้รับภารกิจให้ดูเรื่องการกระจายอำนาจและการบังคับใช้กฎหมาย รวมทั้งยังมีภารกิจที่ต้องดูแลเรื่องปากท้องของประชาชนจากปัญหาโฉนดที่ดินรวมถึงข้อพิพาทบนเกาะหลีเป๊ะ จึงถือโอกาสเหล่านี้เข้ามาดูแลปัญหาอย่างใกล้ชิด และยืนยันว่าไม่ว่าสถานะตอนนี้จะเป็นอย่างไรก็จะเดินหน้านำความยุติธรรมไปคืนให้ประชาชนถึงประตูบ้าน

สืบนครบาล รวบ “ท้าวลิตา” หลอกให้ออมเงินออมทอง เสนอให้ดอกเบี้ยสูงมาก มีผู้เสียหายกว่า 40 ราย     จากนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รรท.ผบ.ตร. ,พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมทางออนไลน์ ที่กระทำความผิดทุกรูปแบบ ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้เร่งทำการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา ตามหมายจับเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการฉ้อโกงหลอกลวงประชาชนในสื่อสังคมออนไลน์  โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. ได้ตรวจสอบพบการกระทำความผิดในลักษณะท้าวแชร์ทางออนไลน์ หลอกให้ร่วมลงทุน ให้ผลตอบแทนสูงมาก มีผู้เสียหายหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก ร่วมลงทุนเสียหายหลายล้าน โดยบุคคลดังกล่าวใช้ชื่อเฟซ "Lita Rodphan" โพสต์เชิญชวน ตรวจสอบพบว่า มีหมายจับติดตัว 4 หมายจับ และหลบหนีไปมาอยู่ตลอด โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า1ปี ในการสืบสวนติดตามจับกุม           เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2567 เวลาประมาณ 19.00 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ได้สั่งให้พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง  รอง ผบก สส.บช.น. , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี , พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ต.ทศรัสมิ์ กิติธารา สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น.  พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ ชุดปฏิบัติการที่ 4 ได้ร่วมกันจับกุมตัว         นางสาวลิตา อายุ 27 ปี ภูมิลำเนา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรีผู้ต้องหาตามหมายจับจำนวน 4 หมาย ดังนี้1.ศาลอาญามีนบุรี ที่ 1064/2564 ลงวันที่ 9 ธันวาคม 2564  ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน "ฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน" 2.หมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ 80/2565 ลงวันที่ 28 มกราคม 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกง ” 3.หมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ 156/2565 ลงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกงและฉ้อโกงประชาชนและให้กู้ยืมที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริตนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ” 4.หมายจับศาลจังหวัดจันทบุรี ที่ 305/2564 ลงวันที่ 23 ธันวาคม 2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกงประชาชน,ฉ้อโกง,ผู้ใดกระทำความผิดโดยการ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ”             โดยจับกุมที่ บริเวณลานจอดรถ หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง ตำบลโพสะ อำเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง            พฤติการณ์ ก่อนเกิดเหตุเมื่อประมาณเดือนต้นเดือนตุลาคม 2564 ขณะที่ผู้เสียหายกำลังพักผ่อนและเล่นเฟซบุ๊กอยู่ที่บ้านพัก ได้เห็น น.ส.ลิตา ผู้ใช้เฟซบุ๊ก โพสเชิญชวนบุคคลทั่วไปที่อยู่ในกลุ่มเฟซบุ๊กให้ร่วมลงทุนออมเงินออมทองโดยใช้ชื่อทุนว่า"บ้านออมลิตา V.๓ นายทุนราย ๔ วัน"ถ้าหากลงทุน 100,000 บาท จะได้รับเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยคืนเป็นเงินจำนวน 137,000 บาททุกวันจำนวน 4 วันโดยแบ่งจ่ายวันละ 34,250บาท โดยเวลารับดอกเบี้ยคืนในวันรุ่งขึ้นของอีกวัน ต่อมาผู้เสียหายสนใจจึงร่วมลงทุนกับน.ส.ลิตาฯจึงโอนเงินจำนวน 100,000 บาท…